วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัด 8




แบบฝึกหัดที่ 8

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน   

รหัสวิชา 0026 008     กลุ่มที่เรียน 3

บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม


คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้


1) "นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address  โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆที่รู้จักได้ทดลอง" การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆหรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหนจงอธิบาย

ตอบ     ผิดจริยธรรม เพราะว่าใช้นำมาแกล้งผู้อื่น ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน  ซึ่งอาจจะไม่ผิดกฏหมายเพราะโปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย

                                                     


2) "นาย J  ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆอีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J " การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆหรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหนจงอธิบาย

ตอบ     ผิดทั้งจริยธรรมและกฏหมาย
                   -ในแง่จริยธรรม คือ มีผู้อื่นนำข้อมูลไปใช้เพราะเขาไม่รู้ว่าข้อมูลนั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ตัวผู้เขียนข้อมูลนั้นรู้ดีว่าข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริง

                   -ในแง่ของกฏหมาย คือ มีการอ้างอิงจากตำราต่างๆ อาจมีการละเมิดลิขสิทธิ์และให้ข้อมูลเท็จก็เป็นได้

                                                       

แบบฝึกหัด 7




แบบฝึกหัดที่ 7

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน   

รหัสวิชา 0026 008     กลุ่มที่เรียน 3

บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ



คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. หน้าที่ของไฟร์วอล (Firewall) คือ

ตอบ  เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายภายใน (Internet) โดยป้องกันผู้บุกรุก (Intrusion) ที่มาจากเครือข่ายภายนอก (Internet) หรือเป็นการกำหนดนโยบายการควบคุมการเข้าถึงระหว่างเครือข่ายสองเครือข่าย โดยสามารถกระทำได้โดยวิธีแตกต่างกันไป แล้วแต่ระบบ

                                            

2. จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer , spy ware , adware มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม

ตอบ  เวอร์ม (Worm) หรือ มาโครไวรัส (Macro Virus) หมายถึงโปรแกรมซึ่งเป็นอิสระจากโปรแกรมอื่นๆ โดยจะแพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ที่อยู่บนเครือข่ายการแพร่กระจายจะคล้ายกับตัวหนอนที่เจาะไซหรือซอกซอนไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ และแพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอก (Copy) ตนเองออกและส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป เวอร์มเป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ใช้มาโครโปรแกรม ที่อยู่ในโปรแกรมประยุกต์ในการกระจายหรือแพร่พันธุ์ตัวเอง

                                            

3. ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง

ตอบ  ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ได้แก่
                  1) Application viruses จะมีผลหรือมีการแพร่กระจายไปยังโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ  การตรวจสอบการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ทำได้โดยดูจากขนาดของแฟ้ม (file size) ว่ามีขนาดเปลี่ยนไปจากเดิมมาน้อยแค่ไหน ถ้าแฟ้มมีขนาดโตขึ้น นั่นหมายถึงแฟ้มดังกล่าวอาจได้รับการติดเชื้อจากไวรัสชนิดนี้แล้ว
                  2) System viruses ไวรัสชนิดนี้จะติดหรือแพร่กระจายในโปรแกรมจำพวกระบบปฏิบัติการ (Operating systems) หรือโปรแกรมระบบอื่นๆ โดยไวรัสชนิดนี้มักแพร่เชื้อในขณะที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์

                                              
                
                                                                                          
4. ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ

                  1) องค์กรมีนโยบายหรือมาตรการให้ผู้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทุกคนต้องเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆหรืออย่างน้อยปีละครั้ง
                  2) มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ใช้ระบบเข้าใช้ระบบในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
                  3) มีการเข้ารหัสข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์
                  4)  มีระเบียบปฏิบัติในการควบคุมอย่างชัดแจ้งในการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
                  5)  ให้ความรู้อย่างสม่ำเสมอในเรื่องการรักาาความปลอดภัย การเตรียมตัวและการป้องกันการบุกรุกของแฮกเกอร์ หรือ แครกเกอร์ รวมถึงขั้นตอนการดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์เมื่อถูกบุกรุก

                                                 

                                                           
5.มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน ได้แก่

ตอบ  1) ICT Gate Keeper เฝ้าระวังพิษภัยอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายและวงจรเชื่อมต่อระหว่างประเทศ
        2) House Keeper ซึ่งจัดทำเป็นแผ่นซีดีรอม และแจกฟรีให้กับผู้ปกครองหรือดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ของกระทรวง โปรแกรมนี้จะมี 3 ส่วน
             - ส่วนแรก คิดดี้แคร์ ปิดกั้นเว็บไซต์อนาจารและเว็บที่ไม่เหมาะสมที่กระทรวงไอซีที มีข้อมูลคาดว่าจะช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่ง
             - ต่อมาเป็นส่วนพีเพิลคลีน ติดไอคอนไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จะคลิกเข้าไปเมื่อพบภาพลามกอนาจาร ประชาชนจึงสามารถเข้ามามีบทบาทช่วยเฝ้าระวังได้เช่นกัน
             - ส่วนสุดท้าย สมาร์ทเกมเมอร์ แก้ปัญหาการติดเกม และควบคุมการเล่นเกมของเด็กๆ ผู้ปกครองจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาของการเล่นเกมและช่วยดูแลเรื่องความรุนแรงของเกม แต่ละส่วนนี้คงต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลา

                                                     

แบบฝึกหัด บทที่ 6




แบบฝึกหัดที่ 6

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน   

รหัสวิชา 0026 008     กลุ่มที่เรียน 3

บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน



คำชี้แจง  จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว


1.  การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
ตอบ     1. เทคโนโลยีสารสนเทศ

2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม
ตอบ     2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล

3. การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
ตอบ     1. ระบบอัตโมนัติ

4.ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตอบ     4. ถูกข้อ

5. เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
ตอบ     1. การประยุต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์

6. เครื่องมือที่สำคัญในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
ตอบ     3. คอมพิวเตอร์

7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
ตอบ     4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่ีมีคุณภาพ

8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
ตอบ     3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์

9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
ตอบ     3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

10. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
ตอบ     4. ถูกทุกข้อ

                                                   

แบบฝึกหัดที่ 5


แบบฝึกหัดที่ 5

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน   

รหัสวิชา 0026 008     กลุ่มที่เรียน 3

บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ


คำชี้แจง  จงตอบคำถามต่อไปนี้


1. จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ

ตอบ          การจัดการสารสนเทศ หมายถึง การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การโดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งนโยบาย หรือกลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ

                                               

2. การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร

ตอบ          -ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อบุคคล
                   การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิตปประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่างๆ การจัดการสารสนเทศอย่างเป็นระบบ โดยการจัดทำฐานข้อมุลส่วนบุคคล รวบรวมทั้งข้อมูลการดำรงชีวิต การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่างๆ ในการดำรงชีวิตประจำวันบุคคลย่อมต้องการสารสนเทศหลายดด้านเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น มีความก้าวหน้า และมีความสุข

                  -ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์การ
          1) ความสำคัญด้านการบริหารจัดการ  จำเป็นต้องได้รับสารสนเทศ ที่เหมาะสม ถูกต้อง ครบถ้วน ทันการณ์ และทันสมัย เพื่อใช้ประกอบภารกิจตามหน้าที่ ตามระดับการบริหาร
          2) ความสำคัญด้านการดำเนินงาน  สารสนเทศนับมีความสำคัญต่อการดำเนินงานในหลายลักษณะเป็นทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน และหลักฐานที่บันทึก  การดำเนินงานในด้านต่างๆ ตามที่หน่วยงานดำเนินการ
          3) ควาสำคัญด้านกฎหมาย  การจัดการสารสนเทศเพื่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องสอดคล้องกับกฏหมาย กฎ ระเบียบและข้อบังคับทั้งในระดับภายในและภายนอกองค์

                                                    

3. พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง

ตอบ          พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งอย่างกว้างๆได้เป็น 2 ยุค
1) การจัดการสนเทศด้วยระบบมือ
2) การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์

                                                                                            

4. จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง

ตอบ            1) การลงทะเบียนเรียน
                  2) การจัดเรียงรายชื่อนิสิตตามรหัสประจำตัวนิสิต
                  3) การสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

                                                    

ทความ 4






ขนมขบเคี้ยว

  ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่าขนมมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเด็กซึ่งมักเป็นหนึ่งในหลายๆ อย่างที่ผู้ใหญ่นำมาใช้ล่อหลอกหรือเป็นเครื่องต่อรอง หรือให้รางวัลกับเด็ก มองถึงความสำคัญของขนม แล้วดูจะมีความสำคัญน้อยเมื่อเทียบกับอาหารหลัก 3 มื้อ ขนมส่วนใหญ่มักทำจากแป้ง น้ำตาล ไขมัน ซึ่งให้เพียงพลังงาน ควรจะเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ แต่พบว่าเด็กกลับรับประทานมากและนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ เด็กที่รับประทานอาหารหลัก 3 มื้อได้มาก และยังเพิ่มขนมขบเคี้ยว โดยเฉพาะขณะดูทีวี ก็จะนำมาซึ่งโรคอ้วน ในเด็กที่น้ำหนักน้อยขนมขบเคี้ยวจะยิ่งทำให้การรับประทานอาหารมื้อหลักลดลง ทำให้การเจริญเติบโตล่าช้า
                       การศึกษาของ สสส.พบว่าค่าขนมของเด็กไทยใช้จ่ายมากกว่าหนึ่งแสนล้านบาท/ปี ชึ่งเท่ากับงบประมาณของ 6 กระทรวง นับเป็นการสูญเสียอย่างมากมาย และรายงานว่า 65% ของค่าขนมเด็กใช้ไปในการซื้อขนมกรุบกรอบ
                       การศึกษาในภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในเขตชนบทพบว่าขนมขบเคี้ยวที่เด็กรับประทานคิดเป็นพลังงานถึงร้อยละ 20 ของพลังงานที่ควรได้รับประจำวันซึ่งสูงพอสมควร และไปแทนที่อาหารหลัก 5 หมู่ ที่มีประโยชน์มากกว่า
                       ขนมอาหารว่างเด็กที่มีขายในขณะนี้ ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ทอฟฟี่ เวเฟอร์ ขนมปัง คุกกี้ เค้ก ปลาหมึกอบกรอบไอศครีม เจลลี่ น้ำอัดลม น้ำหวาน และขนมไทย
                       ในทางโภชนาการ "ขนม" ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง หมายถึง ขนมที่มีส่วนประกอบของสารอาหารครบ 5 หมู่ คือ มีโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ เพิ่มจากแป้ง น้ำตาล ไขมันที่มีอยู่ เนื่องจากในขนมกรุบกรอบส่วนใหญ่จะมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน ผงชูรส เกลือ ซึ่งให้เพียงพลังงานและอาจเป็นโทษกับร่างกายจากผงชูรส และเกลือ
                       ถ้าพิจารณาจะให้ขนมที่มีคุณค่าและมองในภูมิปัญญาท้องถิ่น ขนมไทย น่าจะมีประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารสูงกว่า ตัวอย่าง ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมฟักทอง ข้าวต้มมัด ถั่วแปบ ขนมเหล่านี้รสไม่หวานจัด มีโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยอาหาร ถั่วงา มีโปรตีน และแคลเซียม ผลไม้ ส้ม กล้วย ฝรั่ง มะม่วง มะละกอ ซึ่งมีวิตามิน เกลือแร่ และใยอาหาร

                 ขนมที่ควรหลีกเลี่ยง

1.ขนมกรุบกรอบได้รับความนิยมสูงมักทำจากแป้ง มันฝรั่ง เกลือ ไขมัน และผงชูรส แต่งกลิ่น รส สี รสชาติส่วนใหญ่จะคล้ายกัน คือ หวาน มัน เค็ม สำหรับแป้ง น้ำตาลไขมันจะให้พลังงาน รับประทานมากเกินไปจะทำให้อ้วน และเป็นสาเหตุของโรคฟันผุในเด็ก เกลือ มีผลต่อสุขภาพ ทำให้ไตทำงานหนัก และเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ไตวาย ผงชูรส มีผลเสียต่อสุขภาพ มีโซเดียมเป็นองค์ประกอบเช่นเดียวกับเกลือแกง อาจทำให้มีความดันโลหิตสูง อาการแพ้ผงชูรส ได้แก่ ชาที่ปาก ลิ้น หน้า ร้อนวูบวาบ ผื่นแดงตามตัว แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก มีผลต่อระบบประสาท และสะสมนานๆ จะทำให้มีผลต่อประสาทตา การเกิดมะเร็ง ไตวาย

2.ขนมที่ใส่สีฉูดฉาด ถ้าไม่ใช่สีผสมอาหารจะเกิดเป็นโทษต่อร่างกาย เพราะจะมีโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว จะเป็นพิษต่อทั้งระบบประสาท ไต ฯลฯ

3.ลูกอม น้ำตาล หวาน ทำให้ฟันผุ

4.ขนมทุกชนิดที่ผสมกาแฟ มีคาเฟอีน ซึ่งกระตุ้นหัวใจทำให้ใจสั่นนอนไม่หลับ ปริมาณกาแฟพบสูงในลูกอมรสกาแฟ รองลงไปคือ ลูกอมสอดไส้ช็อกโกแลต คุกกี้รสกาแฟ เวเฟอร์ เค้ก ไอศครีม ตามลำดับ

5.เจลลี่ โดยเฉพาะที่ขนาดพอคำบรรจุเป็นถ้วยเล็กๆ เด็กบีบเข้าปากได้เลย พบอุบัติเหตุเด็กสำลักติดคอและเสียชีวิต มีประกาศห้ามขายแล้ว

6.น้ำอัดลม มีน้ำ น้ำตาล เจือสี แต่งกลิ่น รส และอัดแก๊สมีฤทธิ์เป็นกรด กินแล้วจะมีลมในกระเพาะทำให้ท้องอืด กรดกัดกระเพาะทำให้ปวดท้อง เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในเด็กที่นำมาพบกุมารแพทย์

7.ไอติมแท่ง มักเห็นในเขตปริมณฑล กรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด มักใส่สีสดใส และที่สำคัญกรรมวิธีการผลิตไม่ถูกสุขลักษณะ นอกจากสีที่อันตรายยังอาจปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้

-เราควรบริโภค "ขนม" ที่มีคุณค่าในปริมาณมากน้อยขนาดไหน
ขนมที่มีคุณค่าก็ให้พลังงานจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ควรเป็นของว่างเสริมระหว่างมื้อ 1-2 ครั้งต่อวัน จากอาหารหลัก 3 มื้อ ช่วงสาย และช่วงบ่าย ถ้าเป็นผลไม้ประมาณ 1 ส่วนเสริฟ : กล้วยน้ำว้า 1 ผล ส้ม 1 ผล มะละกอ 5-6ชิ้นคำ ขนมไทยๆ รสไม่หวานจัด : ขนมกล้วย ขนมฟักทอง 1-2 ชิ้น ข้าวต้มมัด 1 กลีบ

-ผู้ปกครองจะแนะนำบุตรหลานอย่างไรให้เลือกขนมมีประโยชน์
ปัจจุบันสื่อโฆษณาต่างๆ ด้านขนมเด็ก กำลังโหมกระหน่ำและมุ่งเป้าสู่เด็กทุกวัย เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ครอบครัว ผู้ปกครองจึงควรให้ความสนใจพินิจพิเคราะห์ในการเลือกขนม หรือให้คำแนะนำในการเลือกขนมกับบุตรหลาน หลักที่ควรคำนึง คือ 3 ป
.
1.ปลอดภัย กินแล้วไม่มีโทษต่อร่างกาย ดูลักษณะทั่วไปสะอาดไม่มีสีฉูดฉาด บรรจุในภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ที่มิดชิด การดูฉลากอาหาร เลขทะเบียน อย.วันผลิต วันหมดอายุ และส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์นั้นๆ และพลังงานที่ได้รับ อาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ มีสารปนเปื้อนจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น เชื้อจุลินทรีย์จะทำให้เกิดอาเจียน ท้องเสีย โลหะหนักมีผลต่อระบบประสาท ไต
2.ประโยชน์ เด็กมักรับประทานขนม เพราะความอยาก อร่อย ควรสอนให้เด็กได้รู้จักเปรียบเทียบคุณค่าของขนมที่รับประทาน เช่น ขนมไทย ผลไม้ ซึ่งน่าจะมีประโยชน์มากกว่าในด้านการให้วิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารทำให้ร่างกายเจริญเติบโต และท้องไม่ผูก เมื่อเทียบกับขนมกรุบกรอบ ซึ่งจะได้รับพิษภัยจากเกลือ ผงชูรส
3.ประหยัด สอนให้เด็กรู้จักคิดก่อนซื้อว่าสิ่งที่ได้นั้นคุ้มค่ากับเงินที่จะจ่ายหรือไม่ เปรียบเทียบราคาในผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน

สรุป
-เลือกผลไม้แทนขนมกรุบกรอบ เลือกอาหารไม่ใส่สี หรือใช้สีธรรมชาติ
-เลือกอาหารโดยหลัก 3 ป. ปลอดภัย ประโยชน์ ประหยัด
-ฝึกวินัยให้เด็กรับประทานเป็นเวลา ไม่จุบจิบ พร่ำเพรื่อ


โดย รศ.พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล


ที่มา....www.matichon.co.th

บทความ 3





ประโยชน์ของส้ม
1. ส้มเป็นผลไม้นางเอก มีสารไฟโตนิวเทรียนต์มาก ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาวาโนนส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์ และวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใส .. ส้ม มีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็ว และแผลเรียบเนียนขึ้น

2. ส้ม ให้แคลเซียมและวิตามินดี แก่ร่างกาย มากพอๆ กับนม และแคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูก แต่ถ้าไม่มีวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ นอกจากนี้ส้มยังมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการดังกล่าวอีกด้วย แต่พึงเข้าใจด้วยว่า กรดอะซีติกในส้ม อาจทำลายสารเคลือบฟันได้ จึงไม่ควรแปรงฟันภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากทานส้มหรือดื่มน้ำส้ม

3. ส้ม มีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ยิ่งไปกว่านั้นส้มยังช่วยป้องกันและรักษาเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย

4. เปลือกของส้ม มีสารมหัศจรรย์อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือการ Polymethoxylated Flavones (PMFs) และสาร D-Limonene ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ปรับระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นการกรองสารพิษของตับ นอกจากนี้จากการศึกษายังชี้ว่า เม็ดสีในส้มเขียวหวานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) โดยไม่ส่งผลต่อคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)

5. ตำรับจีนมักเสิร์ฟเปลือกส้ม คู่กับอาหารเนื้อสัตว์ เพื่อย่อยอาหารที่มีไขมันสูง บางตำราแนะนำให้เริ่มวันใหม่ด้วยน้ำเลมอน 12 ออนซ์ ผสมกับน้ำกรองแล้วที่อุณหภูมิห้อง จะช่วยชะล้างของเสียในระบบย่อยอาหารและลำไส้ได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ

6. ส้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยปกป้องแก้วตาจากโรคต้อกระจก และจากการศึกษายังพบว่า การบริโภควิตามินอีและซีในปริมาณมาก จะช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง

7. ส้ม จะทานก็ได้ จะดมผิวก็ได้ เพราะส้มมีสารโฟเลตซึ่งช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน อันเป็นสารแห่งความสุข กลิ่นของผลไม้ตระกูลส้มสามารถทำให้เบิกบานได้

ข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับพ่อแม่ที่อยากให้ลูกน้อยดื่มน้ำส้มคั้น จะให้ดื่มได้ ต้องหลัง 6 เดือน เพราะเป็นช่วงที่สามารถให้อาหารเสริมได้ แต่ควรผสมน้ำส้มในน้ำ ในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง การให้น้ำส้มที่มีรสชาติเข้มข้นโดยไม่ผสมอะไรเลยอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบดูดซึมของลูกได้ พอลูกโตขึ้นจึงค่อยๆ ลดปริมาณน้ำลง จนถึงอายุ 5 ขวบจึงสามารถให้น้ำส้มอย่างเดียวโดยไม่ต้องผสมน้ำ อนึ่ง เนื่องจากน้ำส้มมีรสหวานมาก การผสมน้ำ ยังเป็นข้อดีที่ช่วยให้ลูกน้อยไม่ติดหวานตั้งแต่เล็ก

ผู้ที่เป็นโรคไตและเบาหวาน หากต้องการจะทานส้ม ควรทานด้วยความระมัดระวัง เพราะส้มเป็นผลไม้ที่ให้โปแตสเซียมและน้ำตาลสูง ควรทานเป็นผลซึ่งมีกากใย จะดีกว่าดื่มน้ำส้มคั้น เพราะน้ำส้มคั้น 1 แก้วต้องใช้ส้มมาคั้นหลายผล ไม่มีกากใย และบางเจ้าจะเติมรสหวานเพิ่มเติม

ที่มา : http://www.bloggang.com โดยคุณ พรไม้หอม